เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา “บิล เกตส์” ได้ทวีตข้อความยาว ๆ ถึงนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่
มีประเด็นคม ๆ หลายเรื่อง
แต่ที่ผมชอบที่สุด คือ เขาสมมุติว่าถ้าตัวเองสามารถย้อนเวลากลับเป็นนักศึกษาใหม่
สาขาวิชาอะไรที่เขาอยากเรียนบ้าง
ประเด็นนี้น่าสนใจมาก
เพราะการ “ย้อนอดีต” แบบสมมุติของเขา
หมายถึง “วิสัยทัศน์” ที่มองไปใน “อนาคต”
ถ้าเขาไม่เชื่อว่าสาขาวิชาเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อโลกในอนาคต
เขาคงไม่อยากเรียน
สาขาวิชาแรกคือ AI หรือ “ปัญญาประดิษฐ์”
ช่วงเวลาที่เขาทวีตอยู่ในช่วงเดียวกับที่ “อัลฟาโกะ” เพิ่งสร้างปรากฏการณ์เขย่าโลกด้วยการชนะ “มือหนึ่ง” ของโลกชาวจีน
เป็นการยืนยันว่าแม้แต่เกมที่ซับซ้อนที่สุดในโลก
“ปัญญาประดิษฐ์” ก็สามารถชนะ “คน” ได้แล้ว
ยิ่งนานวัน AI ยิ่งฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่แปลกที่ “บิล เกตส์” จะอยากกลับไปศึกษาในสาขาวิชานี้
ในมุมของเขา AI จะช่วยให้มนุษย์มี Productive มากขึ้น
และช่วยขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
วิชาที่สอง คือ พลังงานสะอาด
“บิล เกตส์” มีความคิดเรื่อง “ช่วยโลก” มานานแล้ว
พลังงานสะอาด จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้
ขอเพียงแค่ทำราคาลงมาให้จับต้องได้
ซึ่งวันนี้เราเห็นแนวโน้มแล้วว่ามีความเป็นไปได้สูง
แบตเตอรี่ คุณภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะที่ราคาต่ำลง
“รถไฟฟ้า” คนเชื่อแล้วว่ามาแน่
ความสำเร็จของ “เทสล่า” ทำให้วงการรถยนต์สั่นสะเทือน
ล่าสุด “อิรอน มัสก์” เพิ่งแถลงข่าวเรื่องกระเบื้องมุงหลังคาโซลาร์เซลล์
นอกจากเขาจะออกแบบให้สวยทัดเทียมกับกระเบื้องมุมหลังคาทั่วไป
ไม่มันวาวเป็นกระจกเหมือนในอดีต
ราคาที่ประกาศออกมาก็ต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้
แข่งขันในตลาดได้
ครับใครจะไปนึกว่าผู้ผลิตกระเบื้องมุมหลังคา จะมีคู่แข่งชื่อ “อิรอน มัสก์”
SCG ก็คงงงเหมือนกัน
ตอนนี้แทบทุกธุรกิจต้องเจอกับคู่แข่งที่ “ข้ามสายพันธุ์”
เป็น “คู่แข่ง” ที่นึกไม่ถึง
สาขาวิชาที่ 3 ที่ “บิล เกตส์”
อยากเรียน คือ Bioscience หรือ “ชีววิทยาศาสตร์”
ความรู้ในสาขาวิชานี้จะทำให้มนุษย์มีสุขภาพดีขึ้น และมีชีวิตยืนยาวขึ้น
เดี๋ยวนี้เราสามารถตรวจ DNA แล้วรู้ว่าเรามีมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งที่อวัยวะส่วนใหญ่
พอรู้ ก็ดูแลอวัยวะส่วนนั้นให้ดี ๆ
ความรู้ทั้ง 3 สาขานี้ คือ สิ่งที่ “บิล เกตต์” เชื่อว่าจะ “เปลี่ยนโลก”
สังเกตุไหมครับว่าเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ หรือโซเชียลมีเดียอะไรเลย
ทั้งที่สิ่งเหล่านี้มีบทบาทมากในการเปลี่ยนโลก
เหตุผลก็คือ เพราะเรื่องพวกนี้ตัวเขารู้ดีอยู่แล้ว
ไม่เหมือนกับ 3 วิชาดังกล่าวที่เขาไม่รู้
แม้ 3 สาขาวิชานี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่
แต่การขีดเส้นใต้ย้ำอีกครั้งโดยคนฉลาดระดับ “บิล เกตส์”
ยิ่งทำให้เราต้องจับตามองเป็นพิเศษ
เพราะนี่คือ “วิชา” ที่เปลี่ยนโลกในอนาคตอันใกล้นี้